เที่ยวนอร์เวย์

เที่ยวนอร์เวย์ ประเทศในฝันของนักล่าแสงเหนือและนักผจญภัยหลายๆ คน ที่อยากไปเห็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติด้วยตาตัวเอง นอกจากนั้น นอร์เวย์ยังมีประเทศที่สวยงาม เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโบราณและสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี และมีแหล่งมรดกโลกมากมาย ถ้าพร้อมแล้วตามเราไป 12 ที่เที่ยวนอร์เวย์ ทั้งเมืองสวย และที่เที่ยวทางธรรมชาติ สุดอลังการไปพร้อมกัน คุ้มค่าตั๋วแน่นอน

1. เที่ยวนอร์เวย์ Oslo ออสโล

เที่ยวนอร์เวย์ ออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์ ศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจ โบราณสถาน และศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศ เราจะได้เห็นสถาปัตยกรรมทั้งเก่าและใหม่อยู่ร่วมกันอย่างลงตัว และความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการดูแลสิ่งแวดล้อม และการควบคุมมลพิษอย่างเข้มงวด ทำให้ออสโล ได้รับสมญานามว่า “ปอดแห่งยุโรป” นอกจากนี้ยังมีสนามบิน Oslo Gardermoen Airport ที่ได้ชื่อว่าเป็น The World’s Greenest Airport หรือสนามบินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด

ภายในออสโลมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย หากคุณสนใจในประวัติศาสตร์ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง , Vikingskipshuset på Bygdøy ซึ่งบอกเล่าประวัติศาสตร์ของชาวไวกิ้ง ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวสแกนดิเนเวีย จัดแสดงเรือเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 โดยเรือ Oseberg มีขนาดใหญ่ที่สุด สำหรับใครที่อยากเสพงานศิลป์ Vigeland Sculpture Park คือสถานที่ห้ามพลาด เป็นที่ตั้งของประติมากรรมกว่า 650 ชิ้นโดยประติมากรชาวนอร์เวย์ Gustav Vigeland และโรงละครโอเปร่าออสโล ศูนย์วัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดในนอร์เวย์ สร้างด้วยสถาปัตยกรรมสมัยใหม่รูปทรงเรขาคณิต และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย ที่พร้อมให้ทุกคนได้ตื่นตาตื่นใจ

2. Bergen เบอร์เกน

เบอร์เกน เมืองใหญ่อันดับสองรองจากออสโล ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในเก้าเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของยุโรป ล้อมรอบด้วยภูเขาอันยิ่งใหญ่ของ Seven Mountains (De syv fjell) และประเทศที่สวยงาม ไฮไลท์ของเมืองคือ Bryggen ซึ่งเป็นอาคารสีสันสดใสริมน้ำ โดยมีภูเขา Fløyen และภูเขา Ulriken เป็นฉากหลัง มีทั้งร้านอาหาร กิ๊ฟช็อป เวิร์คช็อปงานศิลปะ และพิพิธภัณฑ์ ใครที่อยากชมเมืองเบอร์เกนจากมุมสูง ก็สามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปที่ภูเขา Ulriken ได้เลย

3. Flam หมู่บ้านฟรัม

เที่ยวนอร์เวย์ ประสบการณ์หนึ่งที่ควรได้สัมผัสคือการนั่งรถไฟชมวิวผ่านเมืองต่างๆ โดยเฉพาะรถไฟ Flåm ที่ผ่านหมู่บ้าน Flåm หมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขาที่ลึกที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย ล้อมรอบด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน ทุ่งหญ้าเขียวขจี น้ำตก และแม่น้ำ Flum ที่ปลายสุดของ Aurlandsfjorden เป็นส่วนหนึ่งของ Sognefjorden ซึ่งเป็นฟยอร์ดที่ยาวที่สุดในนอร์เวย์ บรรยากาศที่เงียบสงบและทัศนียภาพอันงดงาม เหมือนมาเติมความสดชื่นให้ปอดด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์

4. Urnes Stave Church โบสถ์ไม้อูร์เนส

Urnes Stave Church เป็นโบสถ์ไม้โบราณ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ด้วยสถาปัตยกรรมสแกนดิเนเวียแบบดั้งเดิม เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะเซลติก ประเพณีไวกิ้ง และโครงสร้างแบบโรมาเนสก์ ท่ามกลางทัศนียภาพอันกว้างใหญ่ของ Sognefjord ที่มีทิวทัศน์งดงาม และสภาพของโบสถ์ก็สมบูรณ์มากจนที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี 1979

5. The Geirangerfjord ไกแรงเกอร์ฟยอร์ด

ล่องเรือในแม่น้ำผ่านทิวทัศน์อันงดงามของ Geiranger Fjord (ไกแรงเกอร์ฟยอร์ด) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของนอร์เวย์ เกิดจากธารน้ำแข็งที่ละลายจนกลายเป็นลำธารยาว 15 กิโลเมตรท่ามกลางหุบเขาสูง 1,000 เมตร ณ ฟยอร์ดแห่งหนึ่งเป็นที่ตั้งของน้ำตกเซเวนซิสเตอร์ส น้ำใสไหลลงมาจากหน้าผาสูง 250 เมตรที่เรียกว่า กล่าวกันว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดใน Geiranger Fjords

ขับรถขึ้นไปชมวิว Geiranger Fjords จากมุมสูงที่ Geiranger Skywalk-Dalsnibba จุดชมวิวฟยอร์ดที่สูงที่สุดในยุโรป ด้วยความสูง 1,500 เมตร มีลานจอดรถที่จุดชมวิว นอกจากนี้ ฟยอร์ดยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำ เช่น พายเรือคายัค พายเรือแคนู ล่องแพ ตกปลา และเล่นสกีหิมะในฤดูหนาว รับรองถูกใจนักเดินทางสายธรรมชาติแน่นอน

6. Trolltunga โทรลส์ทุงกา

Troll’s Tongue หรือ Troll’s Tongue ซึ่งแปลว่า “ลิ้นของ Troll” เนื่องจากหินที่ยื่นออกมาจากหน้าผามีลักษณะคล้ายกับลิ้นขนาดใหญ่ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,100 เมตร Trolltunga เป็นหนึ่งในทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของฟยอร์ด มองเห็นทะเลสาบ Ringedalsvatnet นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะชอบขึ้นไปถ่ายรูปบนขอบหน้าผาเพื่อท้าทายความสูง เพราะวิวตรงหน้านั้นงดงามจริงๆ

7. Lofoten หมู่เกาะโลโฟเทน

โปรดดูแลนักล่าแสงเหนือ หมู่เกาะโลโฟเทนเป็นหมู่เกาะทางตะวันตกเฉียงเหนือของนอร์เวย์ ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่และหมู่บ้านชาวประมงสีแดง หรือที่เรียกว่า Rorbuer ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ Lofoten เช่น หมู่บ้าน Reine หมู่บ้าน Å หมู่บ้าน Sakrisøy และหมู่บ้าน Hamnøy ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในประเทศ โดยเฉพาะทัศนียภาพของภูเขาสูงใหญ่และผืนน้ำที่โอบล้อมหมู่บ้าน ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในนอร์เวย์อีกด้วย พลาดแล้วจะเสียใจ

8. Tromso ทรอมโซ

หากคุณต้องการเห็นแสงเหนือ ไม่ว่าด้วยวิธีใด ให้ไปที่ทรอมโซ เมืองทางเหนือของเส้นอาร์คติกเซอร์เคิลที่ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์อันน่าทึ่งของแสงเหนือ และเที่ยงคืนวันอาทิตย์ ทรอมโซเริ่มต้นจากการเป็นหมู่บ้านชาวประมงในศตวรรษที่ 13 โดยขยายเศรษฐกิจไปสู่เมืองใหญ่ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะรักษารูปแบบอาคารแบบดั้งเดิมเอาไว้ บ้านเรือนมีสีสันสดใส ตัดกับต้นไม้เขียวขจีและหิมะสีขาวที่โปรยปรายในฤดูหนาว

ภายในเมืองทรอมโซมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย เช่น Arctic Cathedral วิหารทรงสามเหลี่ยมประดับด้วยกระจกสีสวยงาม เป็นสถานที่สำคัญกลางหุบเขา Tromsdalen ทางตะวันออกของเมืองและสวนพฤกษศาสตร์ Tromsdalen Arctic-Alpine ที่มีพืชเลือดเย็นหลากหลายชนิด เช่น Rhododendrons และ Tibetan poppies blue poppy) ให้เราได้เดินชมอย่างเพลิดเพลิน

9. Latefossen Waterfall น้ำตกฟอสเซ่น

น้ำตกลาเทฟอสเซน (Låtefossen) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองสแกเรและออดดา ไหลลงมาจากหน้าผาสูง 165 เมตร แยกออกเป็นสองสาย และไหลลงสู่ทะเลสาบ Lotevatnet ผ่านสะพานยาว น้ำตกและภูเขา ช่วงเวลาไฮไลท์ในการเยี่ยมชมน้ำตกฟอสเซ่นคือช่วงต้นฤดูร้อนเป็นช่วงที่อากาศดีที่สุด และชมวิวน้ำตกสัมผัสแสงแดดอุ่นๆตอนกลางวันได้อย่างเต็มที่

10. Atlantic Ocean Road ถนนสวยติดอันดับโลก

คนรักโร้ดทริปห้ามพลาดกับการขับรถบนถนนแอตแลนติก (The Atlantic Road) ถนนสายยาวที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองคริสเตียนซุนด์และเมืองโมลเด ระยะทาง 8.3 กิโลเมตร ระหว่างทางจะพบกับทัศนียภาพอันงดงามของมหาสมุทรแอตแลนติก และเกาะน้อยใหญ่มากมาย สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือเราจะได้ขับผ่านสะพานโค้งทั้งหมด 8 แห่งด้วยกัน คุณต้องลองขับรถบนถนนเส้นนี้

บทความแนะนำ

เที่ยวอิตาลี

เที่ยวไอซ์แลนด์