ที่เที่ยวญี่ปุ่น

ที่เที่ยวญี่ปุ่น

ที่เที่ยวญี่ปุ่น ญี่ปุ่นถือเป็นจุดหมายปลายทางของคนไทยหลายๆ คนที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศเป็นครั้งแรก เนื่องจากการเดินทางไปญี่ปุ่นนั้นไม่ไกลมากใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินเพียงประมาณ 6 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนี้ความสวยงามและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเมือง อาหารอร่อย และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่หลากหลายทำให้เป็นทริปที่ครบจบในที่เดียว

ดังนั้นญี่ปุ่นจึงเป็นประเทศที่น่าไปเยือนในช่วงวันหยุดยาว อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปญี่ปุ่นอาจต้องมีการวางแผนเพื่อตัดสินใจว่าจะไปที่ไหนและควรไปที่ไหน วันนี้จึงได้รวบรวมบทความ “สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของญี่ปุ่น” นี้มาให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ

ที่เที่ยวญี่ปุ่น 1. ป่าไผ่ (Arashiyama Bamboo Grove) – เกียวโต

ที่เที่ยวญี่ปุ่น ป่าไผ่ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงาม เพราะต้นไผ่เปลี่ยนสีตามฤดูกาล ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณไปในช่วงต้นปี ก็เป็นช่วงที่ดอกซากุระบาน วิธีนี้คุณสามารถเห็นต้นไผ่และดอกซากุระไปพร้อมๆ กัน แต่หากไปในช่วงปลายปีหรือประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม ใบไผ่จะเริ่มเปลี่ยนสีตามการมาถึงของช่วงใบไม้แดง ดังนั้นช่วงปลายปีจึงเป็นช่วงพีคของที่นี่และมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีของฝากน่ารักๆให้ทุกคนนำกลับบ้านอีกด้วย แต่ถ้าแนะนำให้ไปช่วงเช้า เพราะอากาศยังไม่ร้อนมากนักและสวยงามมากโดยเฉพาะแสงแดดที่สาดส่องบนต้นไผ่ทั่วพื้นดิน

2. หมู่บ้านประวัติศาสตร์แห่งชิระงะวะโงและโกะกะยะมะ – กิฟุ

ถ้าพลาดมาที่นี่ต้องบอกว่าผิดหวังมาก เนื่องจากหมู่บ้านประวัติศาสตร์ชิราคาวาโกะและโกคายามะได้รับการกำหนดให้เป็นมรดกโลก มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่สวยงาม หมู่บ้านตั้งอยู่กลางหุบเขาธรรมชาติ หลังคาบ้านแต่ละหลังทำมุม 60 องศา เหมือนเอามือประสานกัน บ้านที่สร้างด้วยวิธีนี้เพราะบริเวณนั้นหนาวมาก ฤดูหนาวแบบที่ภูเขาหิมะกองทับถมกัน ดังนั้นการสร้างหลังคาดังกล่าวจะช่วยในการเคลียร์หิมะได้ง่าย สถาปัตยกรรมมีความสวยงามและพื้นที่มีหญ้าเขียวขจีและวิวภูเขาทำให้หมู่บ้านแห่งนี้สวยงามราวกับสวรรค์

3. ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (Fushimi Inari Taisha) – เกียวโต

ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของญี่ปุ่น จุดเด่นของที่นี่คือเสาสีแดงกว่า 10,000 ต้นเรียงรายอยู่ด้านหลังศาลเจ้า เส้นทางนี้เป็นเส้นทางมุ่งสู่ภูเขาอินาริที่มีทิวทัศน์สวยงามและโอกาสดีๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป เชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าที่ชื่อว่า “อินาริ” ซึ่งช่วยเหลือมนุษย์ในด้านการค้า อำนาจ โรคภัย การตรวจร่างกาย และพืชผล หากใครอยากเยี่ยมชมศาลเจ้าที่สวยงามและบรรยากาศดี ๆ เราแนะนำให้มาที่ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ

4. ปราสาทโอซากะ (Osaka Castle) – โอซากะ

ปราสาทโอซาก้ามีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายร้อยปี ถือเป็นหนึ่งในสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น ปราสาทได้รับการพัฒนาและปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้เรียนรู้เกี่ยวกับอดีต พื้นที่ภายในมี 8 ชั้นและจัดแสดงสิ่งของทางประวัติศาสตร์ เช่น อาวุธสงคราม ตลอดจนเรื่องราวและข้อมูลเกี่ยวกับปราสาท รวมถึงหุ่นจำลองเสมือนจริงเสมือนได้เข้าไปในงานจริง ว่ากันว่ามี 8 ชั้น ทั้งสนุกและให้ความรู้ นอกจากนี้ยังมีดอกซากุระให้ชมในบริเวณปราสาทอีกด้วย ถ้าไปช่วงเดือนเมษายนจะเป็นช่วงเวลาที่ดีมากเพราะดอกไม้จะบานสะพรั่ง

5. ตลาดคุโรมง (Kuromon Ichiba Market) – โอซากะ

ตลาดคุโรมงตั้งอยู่ในเมืองโอซาก้า เมืองที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 จุดเด่นของที่นี่คืออาหารทะเลสดมาก! ! หากใครชอบกินปลาหมึก ปลา ปู หรืออาหารทะเลอื่นๆต้องมาที่นี่ แต่ละร้านจะเตรียมอาหารทะเลให้เราทั้งทำความสะอาดและหั่นเป็นซาชิมิ รับรองว่าไม่ผิดหวัง แต่ถ้าใครเป็นภูมิแพ้หรือไม่ชอบอาหารทะเลก็สามารถมาได้ เพราะมีเนื้อวากิวเกรด A ราคาถูกและของหวานให้เลือก ถ้ามีโอกาสมาโอซาก้าก็ไม่อยากให้ใครพลาดที่นี่

6. ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) – ฮอกไกโด

สำหรับผู้ที่ชอบถ่ายรูปหรือรักดอกไม้สวย ๆ “ฟาร์มโทมิตะ” ถือเป็นตัวเลือกที่คนชื่นชอบอย่างแน่นอน เพราะฟาร์มแห่งนี้มีสวนที่ตกแต่งอย่างสวยงาม นี่คือทุ่งลาเวนเดอร์ เรียงสลับสี สวยงามตระการตามาก แต่ถ้าดังก็ต้องเป็นลาเวนเดอร์สีม่วงซึ่งหาชมได้ยาก สิ่งสำคัญคือกลิ่นจะอบอวลไปทั่วพื้นที่และสร้างบรรยากาศที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หากใครอยากมาถ่ายรูปดอกลาเวนเดอร์แนะนำให้มาช่วงเดือนกรกฎาคมค่ะ เพราะดอกไม้ทั้งฟาร์มจะบานพร้อมๆ กัน ฉันสัญญาว่าคุณจะมีความสุขเมื่อได้เข้าไป

7. วัดคิโยมิซุ (Kiyomizu-dera Temple) – เกียวโต

วัดคิโยมิซึเดระเป็นมากกว่าสถาปัตยกรรม แต่วัดแห่งนี้ยังได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรระดับโลกอย่าง UNESCO อีกด้วย วัดตั้งอยู่บนเนินเขามีน้ำไหลผ่าน น้ำใสราวกับกรองมากกว่า 500 ครั้ง เพราะเป็นน้ำใสบริสุทธิ์ 3 ชนิดรวมกัน ทำให้เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียง มันถูกเรียกว่า “น้ำตกโอโตวะ” และได้ชื่อว่า “วัดคิโยมิสึ” เนื่องจากคุณภาพน้ำที่ใส นอกจากนี้ภายในวัดยังมีดอกซากุระสีแดงบานสะพรั่งให้ทัศนียภาพอันงดงามของเมืองเกียวโตอีกด้วย

8. ปราสาทฮิเมะจิ (Himeji Castle) – เฮียวโงะ

การเดินทางไปยังปราสาทฮิเมจินั้นไม่ใช่เรื่องยาก การนั่งรถไฟหรือรถบัสใช้เวลาไม่นาน ปราสาทแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 600 ปี ใครสนใจประวัติศาสตร์ต้องมาที่นี่อย่างน้อยหนึ่งครั้ง เพราะที่นี่คือมรดกโลกและเป็นมรดกที่สำคัญของญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงปราสาททุกระดับ มีทั้งหมด 7 ชั้น ชั้นบนสุดมีทิวทัศน์สวยงามและมีศาลให้เราได้สักการะ บริเวณนี้ยังมีสวนและคูน้ำสำหรับการล่องเรืออีกด้วย

9. สวนโยชิไกเอน (Yoshikien Garden) – โตเกียว

สวนจิไวเป็นสวนขนาดเล็กไม่ใหญ่มาก ในอดีตสวนแห่งนี้เป็นที่ประทับของพระภิกษุ แต่บรรยากาศ ความเงียบสงบ และการตกแต่งทำให้สถานที่แห่งนี้คุ้มค่าแก่การเยี่ยมชม ด้านในมีสวนมอส สวน และสระน้ำ สดชื่นจากทุกมุม หากใครอยากใช้ชีวิตให้ช้าลงและไม่ชอบความวุ่นวายเราอยากให้คุณแวะมา เพราะสามารถเข้าชมได้ฟรีและไม่มีค่าใช้จ่าย

บทความแนะนำ

ที่เที่ยวไต้หวัน

ร้านอาหารในลอนดอน